ยกระดับประสบการณ์การทำงานของคุณไปอีกขั้นด้วย Google One ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Gemini AI! ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว เครื่องมือทำงานอัจฉริยะอย่าง Gemini AI เข้ามาช่วยให้คุณทำงานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า Gemini AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในเครื่องมือที่คุณคุ้นเคยอย่าง Gmail, Docs, และ Sheets ได้อย่างไร
ฟีเจอร์เด่นของ Gemini AI ใน Google One:
-
ช่วยคุณเขียนอีเมลได้อย่างมืออาชีพ: ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดเขียนอีเมล หรือผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการประหยัดเวลา ฟีเจอร์ “ช่วยฉันเขียน” (Help me write) จะเสนอคำแนะนำอัจฉริยะขณะที่คุณกำลังเขียนอีเมล ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและสร้างข้อความที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ และเป็นมืออาชีพ โดยฟีเจอร์นี้จะวิเคราะห์บริบทของอีเมล เสนอแนะคำศัพท์ที่เหมาะสม ปรับปรุงโทนเสียงของข้อความ และตรวจสอบความถูกต้องทางไวยกรณ์
-
ยกระดับการทำงานร่วมกันในเอกสาร: การทำงานร่วมกันกับผู้อื่นบนเอกสารดิจิทัลมักจะต้องใช้เวลาในการอ่าน วิเคราะห์ และสรุปเนื้อหา ฟีเจอร์ “สรุปอัตโนมัติ” (Auto Summarization) ช่วยให้คุณประหยัดเวลาอันมีค่าเหล่านี้ โดย ฟีเจอร์นี้จะดึงข้อมูลสำคัญ สรุปใจความสำคัญของเอกสาร Docs ของคุณให้อัตโนมัติ ช่วยให้เพื่อนร่วมงานและคุณเองเข้าใจเนื้อหาได้รวดเร็ว ประหยัดเวลาในการอ่านเอกสารยาว นอกจากนี้ ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้คุณไฮไลท์ประเด็นสำคัญ ปรับแต่งความยาวของสรุป และแชร์สรุปกับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย
-
สร้างสรรค์สเปรดชีตได้อย่างชาญฉลาด: การวิเคราะห์ข้อมูลในสเปรดชีตมักเป็นงานที่ใช้เวลานาน ฟีเจอร์ “สำรวจข้อมูล” (Explore data) ช่วยให้คุณ ค้นหาแนวโน้ม รูปแบบ และข้อมูลเชิงลึก โดยไม่ต้องใช้สูตรซับซ้อน เพียงแค่คุณถามคำถาม ฟีเจอร์นี้จะวิเคราะห์ข้อมูลใน Sheets ของคุณ และแสดงผลลัพธ์ที่เข้าใจง่าย ช่วยให้คุณประหยัดเวลา และสามารถโฟกัสไปที่การใช้ข้อมูลเพื่อสร้างกลยุทธ์และการตัดสินใจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
สิทธิ์การใช้งาน Gemini AI:
- ฟีเจอร์ Gemini AI พร้อมใช้งานสำหรับสมาชิก Google One ที่มีแผน Premium เริ่มต้น นอกจากฟีเจอร์เหล่านี้ สมาชิก Google One ยังได้รับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม สิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์พิเศษในแอปพลิเคชันต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย