เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้จัดงานสัมมนา “AI Gets Good” ขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวทางการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรจากหลากหลายภาคส่วนมาร่วมพูดคุยและแบ่งปันประสบการณ์
ภายในงานสัมมนา วิทยากรได้นำเสนอประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ AI ดังนี้
- ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กล่าวถึงแนวทางการกำกับดูแลการใช้ AI เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม โดยเน้นย้ำถึงหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ความโปร่งใส ความยุติธรรม และ ความรับผิดชอบ
ความโปร่งใส หมายถึง ผู้ใช้ AI ต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลและกระบวนการทำงานของ AI ได้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบและประเมินผลได้อย่างเหมาะสม ความยุติธรรม หมายถึง AI ต้องไม่ถูกใช้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือสร้างการเลือกปฏิบัติ ความรับผิดชอบ หมายถึง ผู้ใช้ AI ต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของการใช้ AI
-
คุณชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความมุ่งมั่นของทรูในการนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยยกตัวอย่างโครงการต่างๆ ที่ทรูได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น
-
โครงการ True AI for Good ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในภาคการศึกษาและสาธารณสุข โดยนำ AI มาใช้ในการสอนหนังสือ วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ และวินิจฉัยโรค
-
โครงการ True AI for Social Good ที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมต่างๆ เช่น ปัญหาการจราจร ปัญหาขยะ และปัญหาความเหลื่อมล้ำ
-
คุณภาวนา จันทรังษี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของซีพี ออลล์ โดยยกตัวอย่างโครงการต่างๆ ที่ซีพี ออลล์ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น
-
โครงการใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค เพื่อนำมาพัฒนากลยุทธ์การขาย
-
โครงการใช้ AI พัฒนาระบบขนส่งสินค้า เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
จากมุมมองของวิทยากรในงานสัมมนา จะเห็นได้ว่า AI มีศักยภาพที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง โดยสิ่งสำคัญคือต้องนำ AI มาประยุกต์ใช้อย่างมีความรับผิดชอบและอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องตามหลักจริยธรรม
ตัวอย่างการนำ AI มาสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในมิติต่างๆ
ด้านเศรษฐกิจ
- AI สามารถนำมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การใช้ AI พัฒนาระบบรักษาพยาบาลอัจฉริยะที่ช่วยวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
- AI สามารถนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ เช่น การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
ด้านสังคม
- AI สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาสังคมต่างๆ เช่น การใช้ AI พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะที่ช่วยป้องกันอาชญากรรม
- AI สามารถนำมาใช้ส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ เช่น การใช้ AI พัฒนาระบบการศึกษาอัจฉริยะที่ช่วยสอนหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านสิ่งแวดล้อม
- AI สามารถนำมาใช้พัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น การใช้ AI พัฒนาระบบผลิตพลังงานจากพลังงานหมุนเวียน
- AI สามารถนำมาใช้จัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ AI พัฒนาระบบติดตามปริมาณน้ำและระบบพยากรณ์สภาพอากาศ
ด้านความมั่นคง
- AI สามารถนำมาใช้พัฒนาระบบป้องกันประเทศ เช่น การใช้ AI พัฒนาระบบอาวุธอัจฉริยะ
- AI สามารถนำมาใช้ติดตามภัยคุกคามต่างๆ เช่น การใช้ AI พัฒนาระบบเฝ้าระวังภัยไซเบอร์
แนวทางในการนำ AI มาสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม
นอกจากการให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร การสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม และส่งเสริมการศึกษาและการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ AI แล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการสร้างกรอบการกำกับดูแล AI ที่มีประสิทธิภาพ โดยกรอบการกำกับดูแล AI ควรครอบคลุมหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
- หลักการด้านความปลอดภัย หมายถึง AI ต้องถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องความปลอดภัยของมนุษย์และทรัพย์สิน
- หลักการด้านความเป็นส่วนตัว หมายถึง AI ต้องถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
- หลักการด้านความเป็นธรรม หมายถึง AI ต้องไม่ถูกใช้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือสร้างการเลือกปฏิบัติ
การร่วมมือจากทุกภาคส่วนถือเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนการนำ AI มาสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม โดยหวังว่า AI จะเป็นพลังสำคัญในการสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้กับมนุษยชาติ